Selective Racking คือระบบจัดเก็บสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคลังสินค้าทั่วไป ด้วยความยืดหยุ่นและการเข้าถึงสินค้าที่สะดวก เหมาะสำหรับสินค้าหลากหลายประเภท สำหรับผู้ประกอบการที่มองหาโซลูชันคลังสินค้าที่ยืดหยุ่นและเข้าถึงสินค้าได้ง่าย มาทำความรู้จักข้อดีของชั้นวางสินค้าแบบ Selective Racking และแนวทางการเลือกชั้นวางที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ
Selective Racking คืออะไร ?
ชั้นวางสินค้า Selective Racking คือ ชั้นวางแบบเลือกพาเลทได้ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในโรงงานอุตสาหกรรมหรือคลังสินค้าทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นรูปแบบชั้นวางที่เหมาะสำหรับการจัดเก็บสินค้าหลากหลายประเภทบนพาเลท ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี และสามารถปรับระยะห่างของชั้นวางได้ตามต้องการ และมีข้อจำกัดที่ค่อนข้างน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับชั้นวางประเภทอื่น ๆ
ข้อดีการจัดเก็บสินค้าบนชั้นวางสินค้าแบบซีเล็คทีฟแร็ค
Selective Racking ระบบจัดเก็บสินค้าที่เข้าถึงได้ง่ายและยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถหยิบสินค้าทุกประเภทได้อย่างสะดวกจากทั้งสองฝั่งของชั้นวาง ช่วยให้จัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา และพื้นที่จัดเก็บ รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินค้าคงคลังในโรงงาน คลังสินค้า หรือศูนย์กระจายสินค้า
- เพิ่มพื้นที่จัดเก็บสินค้า: ชั้นวางที่สามารถจัดเก็บสินค้าเป็นชั้น ๆ บนโครงสร้างสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มพื้นที่แนวตั้งให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า
- ควบคุมสต็อกสินค้าได้ง่าย : การจัดเก็บสินค้าบนชั้นวางแบบซีเล็คทีฟแร็ค ช่วยให้มองเห็นสินค้าในคลังได้ชัดเจน ง่ายต่อการตรวจสอบสต็อกสินค้า ค้นหาสินค้า และหยิบสินค้า
- จัดเก็บสินค้าได้หลายประเภท : ชั้นวางที่รองรับการจัดเก็บสินค้าหลากหลายประเภท และสามารถปรับขนาดและรูปแบบชั้นวางให้เหมาะสมกับสินค้าแต่ละประเภท
- มีความยืดหยุ่นในการเก็บสินค้า : สามารถปรับระดับความสูงของชั้นวางได้ตามต้องการ รองรับสินค้าที่มีขนาดและรูปทรงแตกต่างกัน ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดเก็บสินค้า
- รองรับสินค้าหนักได้ดี : ชั้นวางผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง โครงสร้างมีความแข็งแรง ทนทาน รองรับสินค้าที่มีน้ำหนักได้ดี ช่วยป้องกันสินค้าเสียหาย
- ประหยัดงบประมาณ : ระบบชั้นวางสินค้าแบบซีเล็คทีฟแร็คมีต้นทุนของวัสดุต่ำ ใช้แรงงานน้อยในการติดตั้ง ทำให้เป็นหนึ่งในระบบชั้นวางที่เหมาะสมที่สุด
วิธีการเลือกใช้งานชั้นวางสินค้าแบบ Selective Racking
การเลือกใช้งานชั้นวางสินค้าแบบ Selective Racking ให้เหมาะสมกับธุรกิจ จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- ลักษณะของสินค้า : พิจารณาขนาดสินค้าทั้งความกว้าง ความยาว ความสูง และน้ำหนักสินค้าแต่ละชิ้น เพื่อเลือกชั้นวางที่สามารถรองรับขนาดสินค้าได้อย่างเหมาะสม
- พื้นที่คลังสินค้า : ตรวจสอบขนาดและความสูงของคลังสินค้า ตลอดจนการวางผังต่าง ๆ เช่น ตำแหน่งจัดเก็บ เส้นทางและระบบลำเลียงขนส่ง เพื่อให้สามารถเลือกชั้นวางและจำนวนให้เข้ากับพื้นที่ จึงสามารถจัดเก็บสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติม : ระบบ FIFO การหยิบสินค้าที่เก็บเข้าคลังก่อนออกไปก่อน / LIFO การเก็บสินค้าที่เข้ามาล่าสุดออกก่อนเสมอ หรือระบบกันตก เช่น การทำราวกันตก ตัวป้องกันชั้นวางสินค้า หรืออุปกรณ์นิรภัยยึดติดกับโครงสร้างโดยรอบ
- งบประมาณ : กำหนดงบประมาณสำหรับการลงทุนในชั้นวางสินค้าแบบซีเล็คทีฟแร็ค พร้อมทำการเปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติจากผู้จำหน่ายหลายรายก่อนตัดสินใจ
- เลือกซื้อจากผู้จำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือ : ควรเลือกซื้อจากผู้จำหน่ายที่มีบริการออกแบบ ติดตั้ง และบริการหลังการขาย
- ตรวจสอบคุณภาพของชั้นวางก่อนใช้งาน : ตรวจสอบโครงสร้างของชั้นวางว่ามีความแข็งแรง มั่นคง ไม่มีรอยแตกหรือรอยร้าว รวมถึงงานสีและผิวเคลือบของชั้นวางว่าเรียบเนียน ไม่มีรอยขีดข่วนหรือรอยถลอก เพื่อการใช้งานที่มีคุณภาพในระยะยาว
การเลือกใช้งานชั้นวางสินค้าแบบ Selective Racking อย่างถูกต้อง จะช่วยให้ธุรกิจมีระบบจัดเก็บสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และเพิ่มความปลอดภัย สำหรับผู้ประกอบการที่มองหา ชั้นวางสินค้าอุตสาหกรรม รองรับน้ำหนักได้อย่างทนทาน และปลอดภัย ต้องปรึกษาเรา ! Tellus ผู้ผลิตและออกแบบระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ จำหน่าย Selective Racking ชั้นวางสินค้าแบบเลือกพาเลท ในราคาคุ้มค่า เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมของคุณ พร้อมมีบริการหลังการขายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบโจทย์ต่อการทำงานภายในคลังสินค้าของคุณมากที่สุด หากสนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-643-8044.
แหล่งอ้างอิง
- Benefits and Characteristics of Selective Palletสืบค้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567